A Transmission-Line Interpretation of 1:1 Coaxial Balun
โดย จิตรยุทธ จุณณะภาต (HS0DJU)
หมายเหตุ: บทความนี้สงวนลิขสิทธิ์โดยผู้เขียน (โปรดดูรายละเอียดด้านล่างสุด)
อุปกรณ์หนึ่งที่เป็นส่วนสำคัญในระบบสายอากาศก็คือบาลัน (balun - อุปกรณ์ที่ต่อเชื่อมระบบ balanced และ unbalanced เข้าด้วยกัน) เราเคยพูดถึงเรื่องของบาลันอย่างละเอียดมาแล้ว ทำให้เพื่อนๆ รู้ว่ามันแบ่งเป็น voltage และ current balun ซึ่งสองอย่างนี้มีวัตถุประสงค์ต่างกันและใช้แทนกันไม่ได้
โดยพื้นฐานแล้ว voltage balun มีหน้าที่ทำให้ศักย์ไฟฟ้าที่ป้อนให้กับขั้วของสายอากาศสลับไปมาตรงกันข้ามกันจึงมีลักษณะเป็น differential mode อย่างแท้จริง ในขณะที่ current balun มีหน้าที่ป้องกันกระแสโหมดร่วม (common mode current, Icm) ที่จะไหลที่ผิวด้านนอกของสายนำสัญญาณ
ในบทความนี้เราจะพูดเฉพาะเจาะจงถึง voltage balun และเฉพาะที่ทำจากสายนำสัญญาณแบบ coaxial ที่เราเรียกว่า 1:1 coaxial voltage balun กันเพราะเป็นที่แพร่หลายและใช้กันมาก แต่เชื่อว่าผู้ใช้จำนวนมากไม่เคยวิเคราะห์และเห็นคุณสมบัติของมันจริงๆ เราจึงพามาดูว่าเราเข้าใจมันจริงๆ หรือไม่อย่างไร
การทำงานของ 1:1 Coaxial Voltage Balun
ก่อนอื่นมาทบทวนหลักการทำงานของบาลันแบบนี้กันก่อน จากวงจรของมันเมื่อเราป้อนสัญญาณแบบ unbalanced จากขั้วเครื่องวิทยุที่ต่อกับสาย coaxial สายนำสัญญาณที่ยาวต่างกัน ½λ จะทำให้เฟสของโวลเตจที่ปรากฏที่ขั้วทั้งสองของสายอากาศเร็วช้ากว่ากันอยู่ 180° หรือก็คือ “กลับขั้วกันและกัน” กันอยู่ตลอดเวลา
การ “กลับขั้ว” นี้เทียบกับจุดอ้างอิงเสมือน virtual ground ทำให้เราสามารถเขียนวงจรของบาลันนี้ได้เป็นตามรูปที่ 1
โหลด ZL แยกออกเป็น ZL/2 กับ ZL/2
ต่ออนุกรมกันอยู่ที่ Virtual Ground
ด้วยสายนำสัญญาณที่ยาว ¼λ และ ¾λ
จากภาพจะเห็นว่าแต่ละเส้นของสายนำสัญญาณทำหน้าที่เป็น quarter-wavelength transformer ไปด้วย และทำการแปลงอิมพิแดนซ์ ZL/2 และ ZL/2 ที่ปลายของสายนำสัญญาณแต่ละเส้นของ balun ไปเป็นค่าอื่น
จากสมการการแปลงอิมพิแดนซ์ของสายนำสัญญาณที่ยาวลง ¼λ อิมพิแดนซ์ ZL/2 และ ZL/2 จะถูกแปลงดังนี้:
Z1 = (Z0)² / (ZL/2) ------①
Z2 = (Z0)² / (ZL/2) ------②
โดยที่
Z0 = ความต้านทานเฉพาะตัวของสายนำสัญญาณที่ใช้ทำ balun นี้
ปกติแล้วในการสร้างและใช้งาน Coaxial balun แบบ 1:1 นี้ เรามักให้อิมพิแดนซของโหลด ZL มีค่าเท่ากับอิมพิแดนซ์เฉพาะตัวของสายนำสัญญาณ Z0 เช่นเป็น 50Ω ทั้งคู่ นั่นคือ
Z0 = ZL -----③
แทนสมการ ③ ลงใน ① และ ② จะได้
Z1 = 2 ZL
Z2 = 2 ZL
ดังนั้นเมื่อเรานำปลายอีกข้างหนึ่งของสายนำสัญญาณขนานเข้าด้วยกัน
Zin = Z1//Z2 = ZL
นั่นคืออิมพิแดนซ์ที่มองเห็นที่ด้าน unbalanced จะเท่ากับ ZL ที่เราต่อเข้าที่ด้าน balanced
โดย // หมายถึงต่อขนานกัน
เราเห็นอะไรบ้าง
จะเห็นว่าการทำงานของ balun ชนิดนี้อยู่บนความพอดีของหลายองค์ประกอบ สิ่งแรกก็คือความยาวของสายนำสัญญาณทั้งสองเส้นที่ประกอบกันเป็น balun ที่จะต้องยาวต่างกัน ½λ แล้วอีกข้อที่เห็นคือโหลด ZL มีค่าเท่ากับความต้านทานเฉพาะตัว (Z0) ของสายนำสัญญาณที่นำมาใช้สร้างมัน แต่สิ่งเหล่านี้ “จำเป็น” กับการทำงานที่ถูกต้องของมันหรือไม่ เรามาลองดูกันในกรณีต่างๆ ตามด้านล่างนี้
เมื่อ
Z0 = 50Ω และ
ZL = 25Ω, 50Ω, 70Ω, 100Ω
จะเห็นว่าที่ปลายอีกด้านหนึ่งจะเห็นอิมพิแดนซ์
Zin = 100Ω, 50Ω, 35Ω, 25Ω ตามลำดับ ดูรูปที่ 2-5
และเมื่อ
Z0 = 75Ω และ
ZL = 50Ω, 75Ω, 100Ω
จะเห็นว่าที่ปลายอีกด้านหนึ่งจะเห็นอิมพิแดนซ์
Zin = 112.5Ω, 75Ω, 56.25Ω ตามลำดับ ดูรูปที่ 6-8
¼λ-Transmission Line Transformer
จะเห็นชัดเจนว่าบาลันชนิดนี้ทำตัวเหมือนสายนำสัญญาณที่มีอิมพิแดนซ์เฉพาะตัว Z0 เท่ากับสายนำสัญญาณที่ใช้สร้างบาลันนี้และยาว ¼λ นั่นคือถ้าอิมพิแดนซ์ของโหลด ZL มีค่าไม่เท่ากับ Z0 จะเกิดการแปลงอิมพิแดนซ์ตามลักษณะของสายนำสัญญาณที่ยาว ¼λ หรือ:
Zin = (Z0)² / ZL ------④ ตามรูปที่ 9
สร้างลักษณะสัญญาณแบบ balanced
จากสัญญาณแบบ unbalanced แล้ว
Voltage coaxial balun แบบ 1:1 นี้จะ
ประพฤติตัวเหมือนสายนำสัญญาณที่มี
อิมพิแดนซ์เฉพาะตัว Z0 ยาว ¼λ ซึ่ง
ตามสมการ ④ ไปด้วยในเวลาเดียวกัน
ข้อควรระวัง
หากบาลันแบบนี้ถูกสร้างด้วยสายนำสัญญาณขนาด Z0 ค่าหนึ่ง ผู้ใช้ไม่สามารถต่อโหลดอิมพิแดนซ์ ZL ใดๆ ก็ได้แล้วหวังให้ได้ Zin = ZL เสมอ โดย ZL ต้องมีค่าเท่ากับ Z0 เท่านั้นจึงทำให้ Zin = ZL นั่นคือผู้ใช้ต้องสร้างบาลันชนิดนี้ด้วยสายนำสัญญาณที่มีอิมพิแดนซ์เฉพาะตัว (Z0) เท่ากับอิมพิแดนซ์ของโหลด (ZL) ด้วยนั่นเอง
ชื่อเรียกของมันที่เราเห็นเป็นอย่างแรกคือ 1:1 นั้นจะทำให้เราคิดไปว่าถ้าทำ balun ชนิดนี้ด้วยสายนำสัญญาณที่มี (เช่น 50 Ω) แล้ว เราสามารถเอามันไปต่อกับโหลด ZL ค่าเท่าไรก็ได้แล้วจะได้ Zin = ZL ตลอดซึ่งไม่ถูกต้อง
ดังนั้นที่จริงแล้วเราควรเรียก balun แบบนี้ว่า Z0:Z0 coaxial voltage balun ด้วยซ้ำไป (ถึงใครไม่เรียก เราเข้าใจของเราในใจแบบนี้ก็น่าจะเป็นประโยชน์กับตัวเราเองล่ะครับ เอาไว้เตือนตัวเองได้ว่าอิมพิแดนซ์ของสายนำสัญญาณแบบ coaxial ที่ใช้สร้างบาลันแบบนี้มีผลมากนะ)
การนำไปใช้งาน
ในเมื่อเรารู้คุณสมบัติของมันแล้ว แม้บางอย่างอาจจะผิดไปจากที่ใครบางคนคิด เราก็ย่อมหาทางใช้ประโยชน์มันได้ ลองดูตัวอย่างต่อไปนี้
1. เราอาจใช้บาลันนี้ที่ สร้างจากสายนำสัญญาณที่มีอิมพิแดนซ์เฉพาะตัว 50Ω ต่อกับสายอากาศที่มีอิมพิแดนซ์ที่จุดป้อน 50Ω ด้วย จะไม่เกิดการแปลงอิมพิแดนซ์ใดๆ
2. เราอาจใช้บาลันนี้ที่ สร้างจากสายนำสัญญาณที่มีอิมพิแดนซ์เฉพาะตัว 75Ω ต่อกับสายอากาศที่มีอิมพิแดนซ์ที่จุดป้อน 100Ω ด้วย จะเกิดการแปลงอิมพิแดนซ์
Zin = (Z0)² / ZL
Zin = (75Ω)² / 100Ω
Zin = 56.25Ω
นั่นคือเราจะได้ Voltage Balun ที่อาจจะมีความสามารถในการแปลงอิมพิแดนซ์แบบ ¼λ-Transmission Line Transformer ด้วยในเวลาเดียวกัน
สรุป
- 1:1 coaxial voltage balun ไม่ใช่อุปกรณ์ impedance transparent มันไม่ได้ถ่ายทอดอิมพิแดนซ์จากด้านหนึ่งไปที่อีกด้านหนึ่งได้เสมอไป
- เราสามารถมองบาลันชนิดนี้ได้ว่า เป็นสายนำสัญญาณที่ยาว ¼λ และมี characteristic impedance เท่ากับสายนำสัญญาณที่นำมาสร้างมัน
- ในบางกรณี เราอาจจะใช้คุณสมบัตการเป็นสายนำสัญญาณยาว ¼λ และมี characteristic impedance เท่ากับสายนำสัญญาณที่นำมาสร้างมัน นี้ในการช่วย match impedance ไปพร้อมๆ กับการทำงานตามหน้าที่หลักของมันคือแปลงรูปแบบสัญญาณระหว่าง unbalanced กับ balanced ก็ได้
