สายอากาศเป็นอุปกรณ์สำคัญในระบบ
วิทยุสื่อสาร ถ้าไม่มีสายอากาศแล้ว พลังงานไฟฟ้าจากเครื่องส่งวิทยุ
ก็ไม่สามารถ ถูกแปลงเป็นพลังงานคลื่นแม่เหล็
กไฟฟ้าแล้วแพร่กระจายออกไปในอาก
าศหรืออวกาศได้ (space) เมื่อเราเป็นนักวิทยุสมัครเล่นใ
หม่ๆ (หรือแม้กระทั่งเก่าๆ ก็ตาม) เมื่อเราซื้อเครื่องรับส่งวิทยุ
โดยเฉพาะที่เป็นเครื่องแบบมือถื
อพกพา เราก็มักจะได้สายอากาศเล็กๆแถมติ
ดมากับเครื่องด้วย สายอากาศเล็กๆ นี้บางทีเราก็เรียกว่าสายอากาศย
าง บางทีก็เรียกว่าสายอากาศรับเบอร์
ดัค (rubber duck หรือ ducky antenna) ดูภาพที่ 1
ภาพที่ 1 สายอากาศยาง
หรือรับเบอร์ดัค มีขนาดเล็ก
ใช้ง่าย พกพาง่าย พอจะใช้
ติดต่อได้ในระยะใกล้ๆ
พื้นฐานของสายอากาศยาง
สวยอากาศยางนั้น ที่จริงเป็นยางหรือพลาสติกแต่ภา
ยนอกเท่านั้น โดยข้างในของมันก็ยังต้องเป็นโล
หะอยู่ดี ใช้อากาศยางให้ผลการใช้งานไม่ดี
นักแต่ก็พอจะใช้ติดต่อสื่อสารระ
หว่างเครื่องวิทยุได้ในระยะใกล้
ๆ สาเหตุหลักที่สายอากาศยางมีประสิ
ทธิภาพไม่ดีเพราะรูปร่าง ลักษณะ และขนาดของมันไม่ถูกต้องตามที่ค
วรจะเป็น ทำให้ทิศทางการแพร่กระจายคลื่นจ
ากตัวมันเป็นไปในทิศทางที่ค่อนข้
างไม่ตรงกับที่เราต้องการ ไม่ตรงกับทิศทางของคู่สถานีที่เ
ราต้องการติดต่อสื่อสารด้วยซึ่ง
มักจะอยู่ในแนวระนาบขนานกับพื้น
โลกหรือระดับสายตา ดูภาพที่ 2
ภาพที่ 2 การแพร่กระจาย
คลื่นของสายอากาศยาง
มักมีพลังงานไปในทิศทางอื่น
ที่ไม่ใช้ทิศที่คู่สถานีอยู่
จากทฤษฎีย้อนกลับ (Reciprocal theory) ที่บอกว่า ทิศทางรูปแบบการแพร่กระจายคลื่น
ในขณะส่งเป็นอย่างไร รูปแบบการแพร่กระจายคลื่นในขณะรั
บก็เป็นลักษณะเดียวกัน ทำให้การรับและส่งด้วยสายอากาศย
างมีประสิทธิผลไม่ดีทั้
งสองการใช้งาน
ข้อสังเกตผมตั้งใจหลีกเลี่ยงไม่ใช้คำว่า “ประสิทธิภาพ” เพราะคำว่าประสิทธิภาพในทางวิศว
กรรมหมายถึงความสามารถในการแปลง
รูปพลังงานจากรูปหนึ่งไปเป็นอี
กรูปหนึ่ง (เช่นจากไฟฟ้าเป็นแสงสว่าง จากเสียงเป็นไฟฟ้า จากไฟฟ้าเป็นพลังงานกล เป็นต้น) ที่สายอากาศยางก็อาจจะมีประสิทธิ
ภาพสูง คือมีการสูญเสียเป็นพลังงานในรู
ปอื่นน้อย (เรียกว่า loss น้อย) ก็ได้ ดูภาพที่ 3 แต่หลังจากสายอากาศยางแปลงพลังง
านไฟฟ้าเป็นพลังงานคลื่นแม่เหล็
กไฟฟ้าแล้ว รูปแบบการแพร่กระจายคลื่นไม่เป็
นไปอย่างที่เราต้องการนัก (แบ่งไปในทิศทาง ขึ้นฟ้า ลงดิน เสียมากด้วย แทนที่จะไปในทิศขนานกับพื้นโลกใ
ห้มาก จึงทำให้ประสิทธิผลในการใช้งานไ
ม่ดีนัก)
ภาพที่ 3 คำว่าประสิทธิภาพ ในทาง
วิศวกรรมคือความ0สามารถในการ
แปลงรูปพลังงาน ถ้ามีการสูญเสีย
ไปเป็นรูปที่เราไม่ต้องการน้อย นั่นคือ
มีประสิทธิภาพสูง
การเพิ่มประสิทธิผลให้สายอากาศยาง จากที่เราทราบว่าทิศทางการแพร่ก
ระจายคลื่นของสายอากาศยางอยู่ใน
ทิศที่เราไม่ได้ต้องการ นั่นคือไม่ใช่ทิศที่คู่สถานีของ
เราตั้งอยู่ สาเหตุหลักก็เพราะความไม่สมบูรณ์
ของตัวมันเอง สายอากาศยางไม่มี RF ground (หรือ Counterpoise) มีแต่ตัวนำเดี่ยวๆ โผล่ขึ้นมายาวคืบเดียว ที่จุดป้อนก็มีกระแสไหล (แบบไม่สมดุลๆ) อยู่มาก แพทเทิร์นหรือรูปแบบการแพร่กระจ
ายคลื่นก็เลย เบี้ยวๆ บูดๆ ขึ้นฟ้า ลงดิน ไปตามธรรมชาติของมันนั่นเอง
วิธีแก้ไข ดัดแปลง ก็คือพยายามสร้างความสมดุลให้สา
ยอากาศยางสมบูรณ์ขึ้นทางไฟฟ้า เรารู้ว่ามันไม่มี RF ground/counterpoise เราก็ใส่ให้มันเสีย โดยใช้สายไฟยาวประมาณ ¼λ (หรือ 50 ซม. สำหรับความถี่ย่าน 2 เมตร หรือ 145 MHz) ต่อกับโคนสายอากาศที่เป็นกราวด์
ของสายอากาศและเครื่องด้วย ทำให้มีลักษณะใกล้เคียงสายอากาศ
ไดโพลมากขึ้น แพทเทิร์นการแพร่กระจายคลื่นก็อ
ยู่ในแนวระนาบมากขึ้น ดูภาพที่ 4
ภาพที่ 4 เมื่อเราใส่ตัวนำ
ให้กับสายอากาศยาง ทำให้
มันทำหน้าที่เป็น RF ground
สายอากาศทำงานครบวงจร
แพทเทิร์นจึงดีขึ้น
ผลการทดสอบ จากการทดสอบอย่างง่ายๆ เห็นได้ว่าการใส่สายไฟเส้นเล็กๆ ทำให้ทิศทางการแพร่กระจายคลื่นอ
ยู่ในแนวระนาบมากขึ้น วัดได้ดีขึ้นประมาณ 5-6 dB (4 เท่า โดยประมาณ) ดูวิดิโอ 1
วิดิโอ 1 วินาทีที่ 0:20 ถึง 1:08
เป็นผลการวัดความแรงในแนว
ระนาบของสายอากาศยางที่
ไม่มีและมีสายไฟ Tiger tail
สรุป การเพิ่มสายไฟเส้นเล็กๆ ในแนวดิ่ง (แนวเดียวกันกับตัวสายอากาศยางเ
อง) เข้ากับโคนของสายอากาศซึ่งเป็นก
ราวด์ของเครื่องวิทยุด้วย ทำให้กระแส RF ครบวงจรดีขึ้น แพทเทิร์นอยู่ในแนวระนาบ (ตั้งฉากกับสายอากาศ) ดีขึ้น เพื่อนๆ ลองทำเล่นดูได้ ไม่เสียเงินเพราะใช้เศษสายไฟอะไ
รมาทำก็ได้
แล้วพบกันใหม่ในบทความที่น่าสนใ
จในคราวหน้าครับ
73 de HS0DJU